Pages

KebWii อ่านว่า "เก็บไว้" เก็บสิ่งละอันพันละน้อยที่ได้อ่านเจอบนโลกออนไลน์

ที่นี่ เก็บไว้ เราเก็บทุกเรื่องราวทุกข่าวสาร

Tuesday, August 24, 2010

100 GREATEST HITS OF YOUTUBE IN 4 MINUTES



ส่วนที่จะให้แสดงส่วนที่เหลือ

Monday, August 23, 2010

bakery song



ส่วนที่จะให้แสดงส่วนที่เหลือ

Saturday, August 7, 2010

ค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ p.2-4



โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ 

คุณต้น เดิมพัน อยู่วิทยา


ค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ p.1-4


บันทึก ค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ โดย

โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ ตอนที่ 1

Sunday, August 1, 2010

เขียนอะไรลง Blog ดี

ผมเป็นคนหนึ่ง ที่นึกไม่ออกว่าจะเขียนอะไรในบล๊อกดี
วันนี้ไปค้น  ๆ อ่านนั้นโน้นนี่ก็เลยไปเจอบทความนี้ จาก
 เป็นเทคนิคที่น่าสนใจเลยเอามาฝาก ถ้าเขียนตามนี้คงไม่มีทางตัน
มันอยู่ที่คุณจะขยันหรือเปล่า
มีบล๊อกแล้วเขียนอะไรดีละ  มาดูกันเลย


1. ชอบ
สำหรับข้อแรกที่ต้องพิจารณา เรื่องนี้สำคัญครับ อย่างที่บอกกันไปใน post ที่แล้วครับว่า Do what you love, the Money will follow. ดังนั้น ขอให้เพื่อนๆ ที่อยากจะเริ่มต้นเขียน Blog เริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวก่อนเลยครับ ยิ่งถ้าเป็นสิ่งที่รักอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เอฟรับรองได้เลยครับว่า จะมีมุขมาให้เราเขียนได้ไม่รู้จบครับ วันดีคืนดี แมลงหวี่ แมลงวัน บินผ่าน ก็เอามาผสมปนเป จนกลายเป็นเรื่องให้เราเขียน Blog ของเราจนได้ครับ
2. ชอบวิจารณ์
การที่เราชอบวิจารณ์เรื่องใดเรื่องหนึ่งกับคนอื่นๆ ได้อย่างมีเหตุ และ มีผล นั่นก็เป็นเพราะว่าเราสนใจ และมีข้อมูลในเรื่องนั้นๆ อยู่จริง ดังนั้นแทนที่เราจะต้องไปนั่งวิจารณ์เรื่องที่เราสนใจนี้บนเว็บไซต์ต่างๆ หลายๆ ที่ เราก็สามารถรวบรวมเอาความคิดเห็นของเรา เอามาไว้ที่เดียว แล้วก็สามารถเขียน พร้อมแนบหลักฐาน อ้างอิงต่างๆ ของเราไว้ได้เสร็จสรรพ ดังนั้น นักวิจารณ์ทั้งหลาย ก็ควรจะมี Blog ส่วนตัวได้แล้วล่ะครับ เพราะองค์ความรู้ต่างๆ จะได้ไม่กระจัดกระจายด้วยครับ
3. ชอบแชร์ไอเดีย
เรื่องนี้ ต่อเนื่องมาจากบางเรื่องถ้าเรามีความเห็นเป็นอย่างหนึ่ง แล้ว อยากได้รับความคิดเห็นของคนอื่น ในเรื่องเดียวกันนั้น เราสามารถให้เขามาอ่านสิ่งที่เราคิด ผ่าน Blog แล้วเขาก็สามารถเขียน Comment ฝากเอาไว้ได้ ว่าความเห็นของเขา ต่อเรื่องของเรานั้น เป็นอย่างไร
4. ชอบรับฟัง
ข้อนี้ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อนนะครับ เพราะว่า ยิ่งถ้าเราเขียน Blog นานๆ ไปคนก็จะรู้จัก Blog ของเรามากขึ้น และ แน่นอนครับ ย่อมมีคนมีความเห็นไม่ตรงกับเราเท่าไหร่ ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกหัวข้อเขียน Blog แล้ว ก็อย่าเลือกเรื่องที่คุณยอมรับคนอื่นวิจารณ์ไม่ได้เลยครับ
5. ชอบติดตาม
เลือกหัวข้อที่คุณมีความสุขกับการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ครับ ข้อนี้ ไม่เหมือนกับข้อแรกตรงที่ว่าข้อแรกอาจจะแค่ชอบ แล้วก็เขียนถึง แต่ว่า ข้อนี้ คือ “ความชอบขั้นอุกฤติ” ครับ เมื่อคุณชอบแล้วคุณจะอยากติดตามเรื่องนั้นๆ แล้วก็สามารถรวบรวมเอามาลง Blog ได้ด้วย เพื่อส่งต่อเรื่องที่คุณค้นคว้าได้มา เผยแพร่ ให้คนอื่นๆ ได้รับทราบด้วยครับ
เลือกแบบไหน ที่ตรงใจสักเรื่องนะครับ แล้วก็ลุยเลย อย่างน้อยขอให้เริ่มวันนี้ พรุ่งนี้เราก็บอกคนอื่นได้แล้วว่าเรามี Blog เป็นของตัวเองแล้ว…จ๊าบป๊ะล่ะครั

ทำบุญ ให้ได้บุญ



คิดใหม่ ทำใหม่ ให้ได้บุญ

บทความนี้คัดลอกจาก http://www.khonnaruk.com/html/phra/boon/boon-2.html


"ชนเหล่าใด ปลูกสวน ปลูกป่า สร้างสะพาน จัดที่บริการน้ำดื่ม และบึงบ่อสระน้ำให้ที่พักอาศัย บุญของชุมชนเหล่านั้นย่อมเจริญงอกงามทั้งคืนทั้งวันตลอดทุกเวลา ชนเหล่านั้นผู้ตั้งอยู่ในธรรม ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นผู้เดินทางสวรรค์"
พุทธพจน์


การทำบุญในวาระต่าง ๆ






ไม่ต้องสละเงินก็เป็นบุญได้เหมือนกัน




    การทำบุญในวาระต่าง ๆ

    งานวันเกิด

    มักนิยมทำบุญเลี้ยงพระกัน บางคนอาจจะเลือกทำบุญกับสามเณรหรือแม่ชีบ้างก็ได้ มีไม่น้อยที่รวมเพื่อนฝูงญาติมิตรไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า หรือผู้สูงอายุที่บ้านพักคนชรา หากต้องการทำบุญที่เป็นประโยชน์ทางสังคมอื่น ๆ ก็สามารถบริจาคทรัพย์หรือสิ่งของแก่องค์กรสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ หน่วยงานที่ทำงานช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์ หน่วยงานป้องกันด้านยาเสพติด หรือหน่วยงานที่ช่วยเหลือด้านเด็ก ผู้หญิง คนพิการ ฯลฯ
    บางคนก็นิยม เอาเงินไปไถ่ชีวิตโคกระบือที่กำลังจะถูกฆ่า ส่งเงินไปช่วยโรงพยาบาลช้าง บ้างก็นิยมไปบริจาคโลงให้กับผู้อนาถายากไร้ หรือซื้อหนังสือบริจาคห้องสมุดก็เป็นบุญทางปัญญาอีกทางหนึ่ง ที่น่าสนใจมากคือการสนับสนุนกำลังกายและกำลังทรัพย์ เพื่อช่วยงานพระสงฆ์ที่ทำเรื่องการรักษาป่า อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพระสงฆ์ที่ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย ช่วยเรื่องการศึกษาของพระ เณร และแม่ชี วิธีทำบุญในงานวันเกิดแบบสร้างสรรค์ยังมีให้คิดได้อีกมาก

    top


    งานแต่งงาน

    แน่นอนว่าในฐานะชาวพุทธ งานแต่งก็ต้องนิมนต์พระ มาเพื่อทำบุญในงานอยู่แล้ว นอกจากนี้ คู่สมรสยังสามารถจัดของชำร่วย ให้เกิดบุญกุศลได้ด้วย ของชำร่วยในงานที่มักจะเป็นพวงกุญแจ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้ เช่น เทปธรรมะ หนังสือธรรมะ หนังสือต่าง ๆ ที่คิดว่าเหมาะกับผู้รับ และเข้ากับบรรยากาศของงานแต่ง จะเป็นวรรณกรรมเด็กก็น่าสนใจ เคยมีคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งจัดพิมพ์หนังสือ "เจ้าชายน้อย" เป็นของชำร่วยแจกให้แขกเหรื่อในงาน นอกจากจะเป็นการปลูกนิสัยรักการอ่านให้กับผู้รับแล้ว วรรณกรรมเด็กบางเรื่องยังมีเนื้อหากินใจเหมาะกับบรรยากาศของงานอีกด้วย

    top


    งานทำบุญบ้าน ขึ้นบ้านใหม่ เปิดสำนักงานใหม่

    หากเราย้อนไปมองงานบุญของคนไทยรุ่นก่อน จะเห็นว่าพิธีกรรมต่าง ๆ มุ่งประโยชน์ให้เกิด ทั้งทางด้านวัตถุ ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เกิดความสัมพันธ์กลมเกลียวกัน ในหมู่ญาติมิตร และชุมชน ทั้งมีความอิ่มเอิบทางจิตใจและได้ข้อคิด คุณธรรมให้เกิดปัญญา
    แต่งานทำบุญบ้าน ขึ้นบ้านใหม่ หรือเปิดสำนักงานใหม่ ที่น่าจะเป็นโอกาสให้เกิดมิติทางสังคมดังกล่าว กลับมีน้อยลง เจ้าภาพมักเน้นเชิญแต่แวดวงธุรกิจที่ตัวเองรู้จัก ไม่ค่อยได้สนใจชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง งานบุญได้เปลี่ยนเป็นการใส่ซอง ที่สะดวกสบาย แต่ขาดมิติทางความสัมพันธ์แบบเก่า
    งานทำบุญบ้านหรือทำบุญขึ้นสำนักงานใหม่ นอกจากนิมนต์พระมาเจริญพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่งานแล้ว หากจัดให้มีรายการเสวนา ที่มีเนื้อหาสาระที่เหมาะสมกับงาน ก็จะเป็นข้อคิดและประโยชน์ แก่ผู้มาร่วมงานและชุมชนไม่น้อย หรือหากเวลาจำกัดและดูจะยุ่งยาก อย่างน้อยเจ้าภาพก็สามารถให้ผู้มาร่วมงานบุญ มีส่วนร่วมทางสังคมได้คือ รวมเงินช่วยงานบุญนั้นเป็นเงินกองกลางในการพัฒนาชุมชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น ซ่อมตู้โทรศัพท์สาธารณะ บริการถังเก็บขยะ รวมทั้งการจัดเก็บขยะ หรือดูว่าในชุมชนมีสาธารณูปโภคอะไรที่ยังขาดแคลน ก็อาจนำเงินส่วนนี้มาบริหาร นี่ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้งานบุญของเราเชื่อมโยงกับชุมชนได้

    top


    ทำบุญใส่บาตรในวันธรรมดาและช่วงเทศกาล

    การทำบุญตักบาตร ถือเป็นประเพณีนิยม และวิถีปฏิบัติของคนไทย มาเนิ่นนาน คนรุ่นก่อนมักจะพิถีพิถัน และประณีต ในการทำอาหารถวายพระ ถือเป็นความสุขใจ และต้องการให้พระท่าน ได้ฉันอาหารที่ดีมีประโยชน์ และมีความหลากหลาย เพื่อให้ผู้ตักบาตรได้รับบุญโดยสมบูรณ์
    แต่เดี๋ยวนี้มีความสะดวกมากขึ้น มีร้านค้าที่ขายข้าวถุง แกงถุง สำหรับใส่บาตรไว้ให้เรียบร้อย โดยมากจะวางแผงในตลาด บริเวณที่พระออกเดินบิณฑบาต เพื่อสะดวกต่อผู้ซื้อจะได้ใส่บาตรได้ทันที มีข้อน่าสังเกตว่าอาหารเหล่านี้ มีความพิถีพิถันประณีตบรรจง ในการประกอบอาหาร และมีความหลากหลาย ของรายการอาหาร มากน้อยเพียงใด ผู้ตักบาตรอาจไม่ค่อยได้สนใจเพราะไม่ได้ตักบาตรทุกวัน แต่พระที่บิณฑบาตนั้นท่านต้องฉันอาหารซ้ำ ๆ อยู่เสมอ ทำให้การทำบุญกลายเป็นบุญที่ไม่ประณีตโดยไม่รู้ตัว หากเราสละเวลามาปรุงอาหาร หรือพิถีพิถันในการเลือกอาหารในการตักบาตร ก็จะได้รับบุญโดยสมบูรณ์เหมือนคนรุ่นพ่อแม่เราได้ปฏิบัติกันมา
    การใส่บาตรพระตอนเช้า ควรเป็นช่วงเวลาของการใส่บาตรอาหารสด และมีญาติโยมจำนวนไม่น้อยที่นิยมถวายดอกไม้ ธูปเทียน อาหารกระป๋องและน้ำบรรจุขวด น้ำแต่งกลิ่นใส่สี ใส่วัตถุกันเสียที่เห็นบรรจุในขวดเหมือนน้ำส้ม หากหลีกเลี่ยงได้ก็ถือเป็นความพิถีพิถันในการใส่บาตร เพราะของบางอย่างเป็นภาระในการถือ โดยเฉพาะน้ำบรรจุขวด บางครั้งพระท่านต้องหิ้วน้ำหลายขวด ซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก อาหารและน้ำบางชนิด ก็มีคุณค่าทางอาหารต่ำ หรือเป็นผลเสียต่อสุขภาพของพระท่านด้วยซ้ำ
    สำหรับช่วงเทศกาล ชาวพุทธจะพากันใส่บาตรพร้อมกันมากจนอาหารล้นเหลือ ทางที่ดีควรเลือกใส่อาหารแห้ง จะดีกว่าเพราะเก็บไว้ได้ในวันถัดไปเพื่อหลีกเลี่ยงอาหารเหลือทิ้ง สำหรับอาหารแห้ง ในบางวัดจะมีการจัดเก็บไว้บริจาคให้กับถิ่นที่ขาดแคลน หรือเราอาจเลี่ยงไปใส่บาตรวันอื่นที่ไม่ใช่วันเทศกาลแทน หรือเปลี่ยนไปถวายสังฆทานที่วัด ถวายเงินเพื่อการศึกษาของพระเณรในที่มีกองทุนเพื่อการศึกษาของสงฆ์ หรือไปปฏิบัติธรรม ทำความดีอื่น ๆ ได้อีกมากมาย

    top


    งานศพ

    หากเราต้องการจะประยุกต์พิธีกรรม ในการทำบุญ ให้เหมาะกับยุคสมัย และเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ คงไม่มีพิธีกรรมใดในเวลานี้ ที่สมควรปรับปรุงยิ่งกว่าพิธีศพ โดยเฉพาะในเมือง สิ่งที่ควรทำคือ ทำให้พิธีต่าง ๆ สื่อกับผู้คนมากขึ้น เช่น นอกจากนิมนต์พระมาเทศน์แล้ว ควรนึกถึงการจัดบรรยาย หรือเสวนาในงานศพด้วย จะเป็นเรื่องธรรมะล้วน ๆ เรื่องสุขภาพ หรือคติชีวิต จากประวัติผู้ตาย ก็ล้วนเป็นประโยชน์ และน่าจะได้รับความสนใจ จากผู้มาร่วมงานศพ แทนที่จะคิดมาสังสรรค์พูดคุยกันเท่านั้น
    สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การทำให้งานศพ เป็นโอกาสในการทำประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่น การบริจาคเงินในนามของผู้ตาย เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือผู้ยากไร้ สนับสนุนการศึกษาของสงฆ์ หรือสนับสนุนพระสงฆ์ที่ทำงานสงเคราะห์ชุมชนเป็นต้น
    แม้แต่พิธีกรรมที่เจ้าภาพมุ่งทำบุญอุทิศแก่ผู้ตาย เช่น ลูกหลานมาบวชหน้าไฟ ที่มักให้ระยะเวลาสั้นเกินไป ตามโอกาสและเงื่อนไขที่จำกัด เราอาจเลือกวิธีปฏิบัติที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัวเราได้ และได้ผลบุญทั้งแก่ตัวเราและผู้ตาย ลองพิจารณาดูตั้งแต่ การปฏิบัติธรรมดูลมหายใจ - อานาปานสติภาวนาอุทิศให้ผู้ตาย ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องปลีกวิเวกปลีกงานไปปฏิบัติ อาจปฏิบัติหลังกลับจากทำงานก็ได้ หรือเลือกที่จะอดอาหารก็เกิดบุญ และสามารถอุทิศให้ผู้ตายได้เหมือนกันในแง่ความเพียร หรือหากมีเวลาก็อาจเลือกไปปฏิบัติธรรมเป็นช่วง ตามรายการอบรมที่มีจัด เช่น สวนโมกขพลาราม วัดทุ่งไผ่ เสถียรธรรมสถาน ศูนย์ปฏิบัติธรรม ธรรมกมลา (โคเอ็นก้า) ฯลฯ หรือ อาจปฏิบัติอยู่ในวัดใกล้ ๆ บ้านก็น่าสนใจ หากไม่มีเวลาจริง ๆ การถือศีล ๘ อยู่ที่บ้านก็มีอานิสงส์ไม่น้อย
    สำหรับธรรมเนียมของงานศพ ที่ต้องเปิดฝาโลงให้ญาติได้เห็นผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ให้ถือว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำมรณสติ ระลึกรู้ถึงความตาย เป็นเรื่องการภาวนาภายในที่จะต้องเผชิญกับอารมณ์โศกเศร้าแห่งการพรัดพราก แต่ถ้ายังทำใจไม่ได้มั่นคง การร้องไห้ก็เป็นการปลดปล่อยทางอารมณ์ ซึ่งถือเป็นปรกติวิสัยของมนุษย์ปุถุชน หากซ้อนสติแห่งการรับรู้การร้องไห้นั้น เข้าไปก็ยังถือว่า เป็นจังหวะเหมาะที่จะเรียนรู้ตัวเองอย่างมีสติภายใต้ความเศร้าโศกฟูมฟาย
    ส่วนใหญ่งานศพจะจัดงานหลายวัน นานเป็นสัปดาห์ยิ่งจัดหลายวันแบบนี้ พิธีกรรมที่ไม่จำเป็น และเป็นการสิ้นเปลือง ก็ควรจะนำมาทบทวนกันบ้าง
    การเลี้ยงข้าวต้ม หรืออาหารรอบดึก (หลังพระสวดเสร็จจบที่สอง) เจตนาของเจ้าภาพ คงต้องการรับรองผู้มาร่วมงาน ที่อาจจะกินข้าวเย็นไม่ทันก่อนมางาน หรือถือเป็นส่วนหนึ่งของการต้อนรับ ถ้าพิจารณาในแง่นี้แล้ว จะเห็นว่าการเลี้ยงอาหารรอบดึกนี้มีความจำเป็นน้อยมาก เพราะผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่มักเตรียมพร้อมมาร่วมงานอย่างดีแล้ว ส่วนใหญ่อาหารที่เตรียมไว้ จะเหลือเป็นภาระแก่เจ้าภาพอีก และการเลี้ยงอาหารรอบดึกยังมีส่วนทำให้พิธีเสร็จช้า ทั้งดูไม่เหมาะสม ที่ฆราวาสจะมากินอาหารต่อหน้าพระสงฆ์ที่มาสวดในพิธี
    การจัดดอกไม้ประดับในพิธีและโลงศพ บางครั้งก็มากเกินความจำเป็น หรือพิธีกรรมแบบประเพณีจีน เช่น กงเต็ก ก็น่าจะมีการประยุกต์ให้สมกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้
    สำหรับพวงหรีด ที่ผู้มาร่วมงานนำมาเคารพศพ ที่มักนิยมใช้ผ้าขนหนูมาประดิษฐ์ หรือดอกไม้สด ก็นับว่าได้ประโยชน์อยู่ แต่ถ้ามากเกินไป ก็จะกลายเป็นของเหลือใช้หรือเน่าเสียได้ หากต้องการให้เกิดประโยชน์เต็มที่ ในการทำบุญงานศพ เจ้าภาพอาจสอบถามทางวัด ว่าต้องการอะไร หรือตั้งใจจะนำของไปบริจาคใคร ก็อาจจะเขียนแจ้งลงในบัตรเชิญว่า "ขอเชิญบริจาคพันธุ์ไม้ถวายวัด แทนพวงหรีด" หรือ "ขอเชิญบริจาคอุปกรณ์กีฬามอบให้กับโรงเรียน แทนพวงหรีด" เพื่อเก็บรวบรวมไปบริจาคให้โรงเรียนที่ขาดแคลน เป็นการทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย วิธีการนี้อาจช่วยลดปัญหา "ขยะพวงหรีด" ได้อย่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญเป็นการเปลี่ยนพวงหรีด ให้กลายเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์ มากกว่าพวงดอกไม้ไว้อาลัย แล้วเหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา
    ของแจกในงานศพนอกจากหนังสือธรรมะ ที่มักจะพิมพ์แจกกันพอสมควรแล้ว ก็อาจจะหันไปพิมพ์หนังสือดูแลสุขภาพทางเลือกอื่น ๆ บ้าง เดี๋ยวนี้มีพิมพ์ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารมังสวิรัติ ชีวจิต แมคโครไบโอติค หรืออาจจะเป็นหนังสือแนวอื่น ที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อแนวทางการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มีเจ้าภาพบางท่านความคิดสร้างสรรค์มาก พิมพ์ดิคชันนารี่แจกโดยเอารูปผู้ตายเป็นปก อย่างนี้นอกจากเด็กนักเรียนจะได้ใช้ประโยชน์อย่างสุดคุ้มแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าคนตายไม่ได้จากไปไหนอีกด้วย
    เจ้าภาพที่ทุนน้อย ก็อาจเขียนบรรยายความรู้สึกของการสูญเสียผู้ตายด้วยตนเอง รวมทั้งบรรยาย วินาทีสุดท้ายของเหตุการณ์เสียชีวิตลงในกระดาษต้นฉบับ แล้วนำไปถ่ายเอกสารเย็บเป็นเล่มแจกในงานศพ ก็อาจสร้างความแปลกใหม่ได้ไม่น้อย เป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่เจ้าภาพทำเองแจกเองดูน่าประทับใจกว่า เหมาะสำหรับงานศพที่มีแขกผู้มาร่วมงานไม่มากนัก
    ถ้าไม่แจกเป็นหนังสือ สิ่งของอื่น ๆ ที่มักแจกในงานศพก็คงไม่พ้นพวงกุญแจ ตลับยาหม่อง พระเครื่องทั้งแบบเป็นเหรียญและเนื้อผง หากทุนมากหน่อยแจกเป็นเทปธรรมะก็น่าสนใจ เคยเห็นเจ้าภาพบางงานแจกสบู่เป็นของที่ระลึกแก่แขกก็ได้ประโยชน์ไม่น้อยทีเดียว เพียงติดสติกเกอร์ไว้อาลัยมีชื่อผู้ตายกับวันที่ฌาปนกิจไว้ที่สบู่ แล้วแจกผู้มาร่วมงานท่านละก้อนนับว่าเป็นของแจกงานศพที่เก๋ไปอีกแบบ

    top


    ไม่ต้องสละเงินก็เป็นบุญได้เหมือนกัน

    เรามักคุ้นเคยกับการทำบุญแบบเสียเงิน จนคิดว่าการทำบุญมีแต่เฉพาะเรื่องการให้ทาน ลองย้อนกลับไปดู บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ มีอีกตั้ง ๙ วิธี ที่ไม่ต้องเสียทรัพย์ก็เป็นบุญ และสำหรับคนวิตกกังวลว่า เงินที่บริจาคจะถูกใช้ไปในจุดประสงค์อื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลอีกต่อไป เพราะต่อไปนี้คือวิธีทำบุญแบบไม่ต้องบริจาคเป็นเงิน


    ทำอาหารเลี้ยงเด็กกำพร้า

    หาโอกาสเหมาะ ๆ ลงขันกับเพื่อน ทำอาหารไปเลี้ยงเด็ก ตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ อาทิ เด็กพิการ เด็กกำพร้า เด็กติดเชื้อ HIV ฯลฯ นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังเป็นการโชว์เสน่ห์ปลายจวักให้เด็ก ๆ ได้ลิ้มรสอาหารจากฝีมือของคุณอีกต่างหาก


    กิจกรรมสันทนาการ

    หากคุณเป็นนักกิจกรรมเก่ามาก่อน ลองหาเวลาว่างไปทำกิจกรรมสันทนาการกับเด็ก ๆ ตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ดูสิ เพราะตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ เขาต้องการอาสาสมัครไปช่วยงานอยู่แล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องเล่นเกมส์ จะเป็นการวาดภาพ เล่านิทาน นิทานหุ่นกระบอก นิทานหุ่นมือหรืออะไรก็ได้ที่คุณถนัด แล้วแต่ว่าคุณมีความสามารถอะไร จะให้ความบันเทิงและมีสาระแก่เด็ก ๆ


    สันทนาการกับผู้ใหญ่

    ใช่ว่าจะมีแต่เด็กเท่านั้นที่ชอบสันทนาการ ผู้ใหญ่ก็ชอบเหมือนกัน แต่ผู้ใหญ่ในที่นี้ หมายถึงบุคคลที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ คงเคยเห็นนักดนตรีชื่อดัง อาสาเข้าไปเล่นดนตรีให้คนในเรือนจำฟัง นั่นแหละ ... เดี๋ยวนี้มีกลุ่มคณะละครบางกลุ่ม ติดต่อเข้าไปเล่นละคร ให้ชาวคุกได้ชมเหมือนกัน หากคุณมีความสามารถในการแสดง บันเทิง หรือสาระที่เป็นประโยชน์ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เรือนจำ เข้าไปแสดงได้ จะได้เป็นการช่วยผ่อนคลายความเครียด และความซึมเซา อันเกิดจากการถูกจองจำ หรืออยากจะทำบุญ ด้วยการทำอาหารไปเลี้ยงผู้ถูกคุมขังในเรือนจำก็ได้ เพราะปรกติแล้วอาหารในเรือนจำนั้น คงทราบกันดีว่าไม่ชวนให้เจริญอาหาร การนำอาหารไปเลี้ยงผู้ถูกคุมขัง ก็เป็นเรื่องที่เรือนจำสนับสนุนอยู่แล้ว


    เยี่ยมคนชรา

    ไม่มีใครที่ไม่แก่ การไปเยี่ยมคนแก่ หรือแม้แต่นำอาหารไปเลี้ยงท่านเหล่านั้น ที่บ้านพักคนชรา จึงเป็นทั้งบุญ และเป็นการให้สติตัวเองไปด้วยในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้สติปัญญาว่า คนเราต้องแก่เฒ่าหนังเหี่ยวย่น
    สำหรับคนแก่ ยังไม่เคยเห็นมีใคร เอาดนตรีเข้าไปเล่นให้ฟังบ้าง เรามักเข้าใจว่า โลกของคนแก่ จำกัดอยู่แค่ความเงียบสงบเท่านั้น ที่จริงยังมีดนตรีอีกหลายประเภท ที่คนชราก็น่าจะฟังได้ไม่ขัดหู อย่างเช่น ขลุ่ย ไวโอลิน หรือกีตาร์โฟล์คเบา ๆ ใครมีความสามารถตรงนี้ ก็ลองท้าทายตัวเองหน่อย คนทุกเพศทุกวัยล้วนมีดนตรีในหัวใจ เขาจะได้ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ให้อยู่ในโลกของความเงียบเหงา เหมือนกับที่ถูกพามาส่งให้อยู่ที่บ้านพักคนชราอย่างนี้


    ครูข้างถนน

    ครูข้างถนนก็เป็นอีก "บุญ" หนึ่งที่คุณก็สามารถทำได้ อย่างน้อย ก็ช่วยให้เด็กข้างถนนคนหนึ่งมีเพื่อน มีคนที่รับฟังและพร้อมจะเข้าใจเขา



    บริจาคเสียง

    เป็นบุญอีกวิธีหนึ่ง คือการอ่านหนังสือออกเสียง บันทึกใส่เทป เป็นห้องสมุดเสียง อันนี้เป็นโครงการที่มีอยู่แล้ว ของมูลนิธิคอลฟิลด์ เพื่อคนตาบอด เปิดโอกาสให้คนตาดี ช่วยอ่านหนังสือบันทึกเสียงใส่เทปคาสเซ็ท เทปคาสเซ็ทนี้ ก็จะเก็บไว้สำหรับคนตาบอดได้เลือกฟัง ในห้องสมุดเพื่อคนตาบอด ช่วยให้คนตาบอด ได้มีโอกาสอ่านหนังสือได้มากขึ้น โดยคนตาดีช่วยอ่านให้ฟัง


    เป็นอาสาสมัครในวัด

    หากมีเวลาว่าง และอยากลองบริหารเวลา มาใช้ในงานบุญบ้าง ลองหันไปเป็นอาสาสมัครให้กับวัด ที่ทำงานพัฒนาให้กับชุมชนดูบ้าง เช่น วัดที่ดูแลเลี้ยงเด็กกำพร้า วัดที่ดูแลผู้ป่วยเอดส์ วัดที่จัดงานปฏิบัติธรรม หรือไม่ก็เป็นอาสาสมัครในชุมชน


    ทำความดีกับคนรอบข้าง

    พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน มักเป็นบุคคลที่เราละเลยไปโดยไม่ตั้งใจ การหันกลับมาดูแลเอาใจใส่ ก็เป็นอีกบุญหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ความต่างวัยระหว่างวัยรุ่นกับคนแก่ ระหว่างพี่กับน้อง ระหว่างเพศชายเพศหญิง และความเบี่ยงเบนทางเพศ ระหว่างสถานภาพในครอบครัว ระหว่างลัทธิความเชื่อที่ยึดถือ ถึงแม้จะอยู่ในรั้วบ้านเดียวกัน ความต่างเหล่านี้ เราสามารถสานความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นได้ ด้วยการถามอย่างใส่ใจบ้างว่า "เรียนหนังสือเป็นอย่างไรบ้าง" "ทำงานเหนื่อยบ้างไหม" "สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง" "กินข้าวแล้วหรือยัง" พร้อมกับส่งยิ้มให้หนึ่งยิ้ม คนเราเมื่อเจอกันทุกวันมักไม่เห็นคุณค่าของกันและกัน จนวันหนึ่งต้องจากไปนั่นแหละจึงทำดีให้กันในวาระสุดท้าย ทำไมเราไม่ทำดีให้กันตั้งแต่ยังมีลมหายใจอยู่


    แนะนำพร่ำสอนความดีให้กัน

    การเป็นพ่อแม่ที่มีความรับผิดชอบ ก็เป็นบุญวิธีอันหนึ่ง พ่อแม่ที่ดี คือพ่อแม่ที่มีเวลาให้ลูกสม่ำเสมอ ดูแลเอาใจใส่ความเป็นไปของลูก ๆ อย่างพอเหมาะพอดี ไม่ปล่อยทิ้งตามยถากรรม หรือบังคับขู่เข็ญจนเกินเหตุ ไม่ใช้ความรุนแรงกับลูก สอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบ ช่วยเหลือตัวเองได้ มั่นใจในตัวเองดี เปิดโอกาสให้ลูกได้คิดเองบ้าง พร้อมกับสอนให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องกตัญญูกตเวที คือ รู้คุณและตอบแทนคุณ โดยเฉพาะเรื่อง การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญในระดับครอบครัวจริง ๆ และที่ไม่ควรลืมคือ สอนให้ลูกนึกถึงส่วนรวม รับผิดชอบต่อสังคม และเอื้อเฟื้อแบ่งปันแก่คนรอบข้าง


    ตอบแทนความดี ปรับความเข้าใจ

    ความดีที่เราได้รับมาจากผู้อื่น เป็นหนี้ความดี ที่ค้างชำระการตอบแทนความดีต่อผู้มีอุปการะ นอกจากจะเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณแล้ว ก็ยังเป็นบุญอยู่ในตัวเอง และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในบุญ ให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น ระหว่างเรากับเขาผู้อุปการะ และเช่นกัน ในความขุ่นข้องหมองใจบางอย่าง ก็เป็นหนี้กรรมค้างชำระได้ การปรับความเข้าใจ เผยความในใจกับเขา ที่เคยมีเรื่อง ก็ยังไม่พ้นเรื่องของบุญ บุญนี่กินอาณาเขตกว้างขวางจริง ๆ


    เรียนรู้และเข้าใจ "เขา"

    ให้ความรัก ความเมตตา ความเข้าใจ และการยอมรับต่อบุคคลผู้ติดเชื้อ HIV รวมทั้งบุคคล ที่ได้รับความกดดันจากสังคม ในรูปแบบอื่น คนที่เพิ่งออกจากเรือนจำ คนชรา ผู้หญิง เด็ก คนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติ ตลอดจนผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ศาสนา และเรื่องเพศ
    ทุกวันนี้โลกเปิดเผยมากขึ้น ทำให้เราได้รับรู้ว่า โลกสีหม่น ของคนบางกลุ่ม ที่สังคมหันหลังให้นั้น ขาดชีวิตและสีสันอย่างไร การไม่ยอมรับก็คือ บาปและความรุนแรงอย่างหนึ่ง บ่อยครั้งที่คนเราส่งบาปให้กันโดยไม่รู้ตัว อันนำไปสู่ความรุนแรงอื่น ๆ เป็นการดีกว่า หากเราหันมาเปิดใจเข้าใจเขา เรียนรู้ความแตกต่างด้วยเมตตา เพราะเขาก็คือคนใกล้ตัว ในสังคมที่เราต้องคอยดูแลเอาใจใส่

    ที่มา http://www.khonnaruk.com/html/phra/boon/boon-2.html

    เขียนอะไรดีนะนึกไม่ออกเลย
    ไม่ใช่คนชอบเขียนซักเท่าไหร่
    แต่อยากหารายได้พิเศษบ้าง
    ทำ Amazon นี่ทำไงนะ
    เห็นบางคนมีรายได้เดือนละแสนจากการทำ Amazon และ  Adsense
    มันต้องเริ่มจากตรงไหนนะ
    เฮ้อ งงงง
    อยากทำได้บ้าง
    อยากมีรายได้พิเศษอะ
    เงินไม่พอใช้ทำงายดีวะ

    ธีม blogger สวย ๆ







    Revolution Lifestyle Blog Blogger Template

    ส่วนที่จะให้แสดงส่วนที่เหลือ