Pages

KebWii อ่านว่า "เก็บไว้" เก็บสิ่งละอันพันละน้อยที่ได้อ่านเจอบนโลกออนไลน์

ที่นี่ เก็บไว้ เราเก็บทุกเรื่องราวทุกข่าวสาร

Wednesday, September 26, 2012

ศาลญี่ปุ่นตัดสิน.. มือถือและแท็บเล็ต Samsung ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตร Apple

แม้ว่าก่อนหน้านี้ ผลการตัดสินของศาลเกาหลีใต้ ผลปรากฏว่า ทั้ง 2 ค่ายทั้ง Samsung และ Apple ละเมิดสิทธิบัตรทั้งคู่  โดนปรับและโดนแบนสินค้าดัง 5 รุ่นไป และที่ศาลสหรัฐ  Samsung แพ้คดีสิทธิบัตรแก่ Apple และโดนปรับ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันก่อน  แต่ผลพิจารณาการตัดสินของศาลประเทศญี่ปุ่น กลับเป็นข่าวดีของ Samsung แล้ว

สำนักข่าว REUTERS และ Bloomberg รายงานว่า  ผลพิจารณาคดีสิทธิบัตรของศาลญี่ปุ่น ผลปรากฏว่า Samsung เป็นฝ่ายชนะคดี ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรเรื่อง “เทคโนโลยีการส่งไฟล์ข้อมูลเพลงและวีดีโอไปยังมือถืออีกเครื่อง“ ตามที่ Apple ฟ้องศาลไว้เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ที่มา : ไอที 24 ชั่วโมง


เนื้อหาดี ๆ โดย pctodaythailand

Samsung Galaxy S Duos เตรียมวางขายในไทย 14 กันยายนนี้ ราคา 9,900 บาท

 


Samsung Galaxy S Duos เปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นมือถือแอนดรอยด์ 2 ซิมรุ่นล่าสุดของตระกูล Duos โดยเจ้า Galaxy S Duos จะมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับ Galaxy S3 พอสมควร เพียงแต่ว่ามีกาเปลี่ยนแปลงปุ่ม Home ใหม่ และใช้อินเตอร์เฟส TouchWiz Nature UX เหมือนกับ Galaxy S3


สำหรับท่านใดที่รอรุ่นนี้อยู่มีข่าวมาอัพเดทครับผม ล่าสุด MXPhone ได้นำเสนอว่าทางซัมซุงประเทศไทยเตรียมวางขาย Galaxy S Duos ในไทย ในวันที่ 14 กันยายนนี้ ในราคา 9,900 บาท นับว่าเป้นแอนดรอยด์ 2 ซิมอีกรุ่นที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว


ที่มา mxphone


สเปค Galaxy S Duos

หน้าจอ 4 นิ้ว 480?800 พิกเซลซีพียู single-core 1GHzแรม 768MBความจุ 4GB เพิ่ม microSD ได้สนับสนุนการใช้งาน 2 ซิมแบตเตอรี่ 1,500 mAhAndroid 4.0 ICS พร้อม TouchWiz Nature UXกล้อง 5 ล้านพิกเซลกล้องหน้า VGA

 


via:- Mobiledista-

Saturday, September 22, 2012

เราไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรบน Cloud เลย

Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิ้ลและเซเลบด้านเทคโนโลยีได้ขึ้นพูดในรายการทอล์คโชว์ของ Mike Daisey กล่าวว่า “ต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระบบ cloud computing จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก”


การเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค “cloud” นี้หลายๆคนยังอาจไม่คุ้นเคย มันก็คือการเปลี่ยนจากเดิมที่เก็บข้อมูลในฮาร์ดดิสค์บนคอมพิวเตอร์ของเราที่เราสามารถเข้าถึงได้คนเดียว ไปฝากไว้บน remote servers เมื่อฝากข้อมูลบนระบบ cloud แล้วคุณก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ มือถือ หรืออุปกรณ์พกพาเครื่องไหนเข้าถึงไฟล์ที่ฝากไว้ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็ตามขอเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตเท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าใครมีรหัสผ่านของเราก็จะเข้าถึงสิ่งที่เราฝากไว้ได้เช่นกัน


Steve Wozniak  ได้เปิดเผยทรรศนะของเค้าที่มีต่อแนวโน้มของระบบ cloud ในรายการ “The Agony and the Ecstacy of Steve Jobs” ว่าต่อไประบบ cloud จะใช้เก็บข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่เพลง หนังหรือคอนเท้นท์อื่นๆ ซึ่งเค้าแสดงความเป็นห่วงว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ามันจะสร้างปัญหามากมายหลายๆอย่าง


ตอนนี้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์หลายๆเจ้าก็หันมาพัฒนาบริการที่มีพื้นฐานอยู่ระบบ cloud-based ซึ่ง Woz ก็ไม่ปลื้มกับไอเดียนี้เพราะว่าสิทธิความเป็นเจ้าของไฟล์และคอนเท้นท์ต่างๆได้เปลี่ยนไปแล้ว  “ด้วยระบบ cloud คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย มันเหมือนเอาของของคุณไปให้คนอื่น แล้วขออนุญาตใช้งานเท่านั้น ผมอยากได้ความรู้สึกความเป็นเจ้าของกลับคืนมา”


Woz ยังคงกล่าวถึงเรื่องสิทธิความเป็นเจ้าของบนเวทีอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Robert MacPherson แห่ง AFP น่าจะได้ยินสิ่งที่เค้าพูด:


“หลายๆคนรู้สึกว่า ‘โอ้โห ทุกอย่างยังคงถูกเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของฉัน แต่ในความเป็นจริงเราส่งไฟล์ต่างๆขึ้นไปบนเว็บ ส่งขึ้นไปบนระบบ cloud ตรงนั้นเรามีอำนาจในการควบคุมมันน้อยมาก ถ้าทุกอย่างส่งขึ้นไปบนระบบ cloud หมด มันน่าเป็นห่วงจริงๆ”


จากเหตุการณ์ของนักเขียน Gizmodo ที่ถูกแฮคระบบ iClond  ที่ซีรายงานไปเมื่อวานนี้น่าจะตอกย้ำความคิดของ Steve Wozniak ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น


ที่มา : http://www.dailygizmo.tv/


 

Friday, September 21, 2012

Google โต้กลับ กรณีชัยชนะของสิทธิบัตร Apple กับ Samsung

หลังจากที่มีข่าวกรณีที่ Apple ฟ้อง Samsung ในเรื่องของสิทธิบัตร ทาง Google ได้ออกมาโต้ว่า เป็นการจำกัดการเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อใช้งานอุปกรณ์ Android โดยศาลของสหรัฐ ได้สั่งให้ Samsung ต้องจ่าย Apple ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรการผลิต การออกแบบ iPhone และนวัตกรรม รวมไปถึงซอฟต์แวร์ด้วย โดยทาง Samsung เองก็ตั้งใจที่จะยื่นอุทธรณ์ในกรณีนี้


ตามข่าวแล้วเห็นได้ว่า ตอนนี้คนที่ยิ้มออกคือ Windows Phone ที่มองหาช่องทางการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงบนโทรศัพท์มือถือ


แต่สำหรับในครั้งนี้ Google เองมองว่า หลายๆส่วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ Android และอีกหลายๆข้อสงสัยก็จะได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง


ในเมื่ออุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีผู้เล่นใหม่ๆเข้ามามากมาย เรายินดีนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า และไม่ควรจะมีการจำกัดใดๆ


สำหรับกรณีของ Apple และ Android นั้น ทาง Google มองว่า เรื่องสิทธิบัตรก็ฟ้องร้องกันไป แต่ไม่ควรจะมีการจำกัดการจำหน่ายอุปกรณ์ Android เพราะคำตัดสินของศาลในการสั่งแบนงดจำหน่าย ทำให้ลูกค้าถูกจำกัดสิทธิในการใช้งานอุปกรณ์ Android การกระทำของ Apple นั้น เป็นการหยุดยั้งการละเมิดสิทธิบัตรของตน แต่ในขณะเดียวกันกลับเป็นการจำกัดตัวเลือกสำหรับลูกค้าด้วย


โดยโทรศัทพ์มือถือ Samsung 8 รุ่นที่ถูกสั่งแบน ได้แก่รุ่น Galaxy S 4G, Galaxy S2 ของ AT&T, Galaxy S2 Skyrocket, Galaxy S2 ของ T-Mobile, Galaxy S2 Epic 4G, Galaxy S Showcase, Droid Charge และ Galaxy Prevail


ฟาดฟันกันไประหว่าง Apple และ Samsung แต่น่าคิดเพราะกรณีนี้ทำให้เราได้เห็นสิทธิบัตรและนวัตกรรมของไมโครซอฟต์ โดยได้แสดงการทำงานของ Nokia Lumia ซึ่งรัน Windows Phone 7 เป็นตัวอย่างของโทรศัพท์มือถือที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของตัวเอง


ในทางตรงกันข้าม Apple พยายามที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการต่อต้านผู้ผลิตแอนดรอยด์อย่าง  Motorola ซึ่งเป็นของ Google และอีกแบรนด์คือ HTC ซึ่ง Google ถือว่าเป็นการรุกราน Android แล้วเพราะจำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์


จากที่กล่าวมาทั้งหมด ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นโอกาสของไมโครซอฟต์ซะแล้ว โดยทาง Bill Cox ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Windows Phone Division จาก Microsoft ได้ทวิตข้อความว่า “Windows Phone is looking gooooood right now” ทำให้ Windows Phone ดูดีขึ้นมาทันที


มองทางฝั่ง Dell, HTC, Samsung, LG และ ZTE ต่างก็มีแผนที่จะสร้างอุปกรณ์ที่ใช้ Windows Phone 7 เช่นกัน เพียงแต่ว่า Nokia พยายามผลักดันแรงที่สุด


ตอนนี้ไมโครซอฟต์ก็ได้โอกาสทองในการชักชวนผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมาใช้ Windows Phone และขณะนี้ก็เป็นโอกาสอันดี ที่เราจะผลักดันผลิตภัณฑ์ Android ที่รองรับการใช้งานโดยไม่ละเมิดสิทธิบัตรของ Apple รวมไปถึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับทั้งแพล็ตฟอร์ม Windows 8 และ Windows Phone 8 ของไมโครซอฟต์ และท้ายที่สุด หากผู้ผลิตจะย้ายจาก Android ไปสู่ระบบใหม่ อาจจะต้องชั่งน้ำหนักความนิยมของ Android เสียก่อน


ต่อไปเรื่องของลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร คงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญมาก เพราะ Android คงจะพิจารณาการออกแบบใหม่เพื่อไม่ให้ซ้ำหรือลอกเลียนสิทธิบัตรของ Apple อีก หรืออาจจะต้องจ่ายค่าสิทธิบัตร


ถึงเวลาแล้ว ที่ Apple จะต้องคุยเรื่องสิทธิบัตรร่วมกันกับ Google ถึงแม้ว่าในขณะที่ Steve Jobs ยังมีชีวิตอยู่ เขาเคยกล่าวไว้ว่า “เราจะทำลายมัน”


ที่มา : ไอที 24 ชั่วโมง


 

Microsoft เปลี่ยนโลโก้ใหม่ หลังไม่เปลี่ยนมา 25ปี!

วันที่ 23 สิงหาคม 2555 กลายเป็นวันประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญซะแล้ว เมื่อ Microsoft ประกาศเปิดตัวโลโก้ใหม่ ซึ่งโพสโดย  Jeff Hansen  ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์แบรนด์ของ Microsoft  และประกาศใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้ โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่จะออกใหม่นี้จะใช้ โลโก้ Microsoft รูปโฉมใหม่ทั้งหมด ทั้ง Windows8 , Office 5 , XBOX และ ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ผลิตภายใต้แบรด์บริษัท Microsoft


โดยลักษณะโลโก้นั้นมี 2 องค์ประกอบสำคัญคือ อักษรใช้แบบอักษร Segoe และ สี่เหลี่ยม 4 สี แสดงถึงความตั้งใจที่จะแสดงผลิตภัณท์ที่มีคุณภาพ และหลากหลาย จากทางแบรนด์ของ Microsoft นี้


ซึ่งจะเริ่มเห็นโลโก้ใหม่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มที่ทางเว็บไซต์ของ Microsoft.com เป็นเว็บไซต์หลักก่อน และจะยิ่งน่าตื่นเต้นไปอีกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่กำลังจะมาถึง กับ Windows8 และ Surface ที่จะเริ่มจำหน่ายโดยภายใต้แบรนด์โลโก้ใหม่ด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบ 25 ปี ซึ่งโลโก้เดิมนั้นใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1987 ก่อนที่ตอนนี้จะเริ่มเปลี่ยนใหม่หมดจดในปี 2012


ที่มา : ไอที 24 ชั่วโมง


 

วิธีใช้ Google Maps บน iOS6

iOS 6 ก็เริ่มเปิดตัวให้ดาวน์โหลดกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่หายไปในเวอร์ชั่นนี้ก็คือ Youtube และ Google Maps ถ้าใครคิดถึง Youtube ก็สามารถเข้าไปโหลดใน App store มาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ Google Maps นี่สิถูกแทนด้วยแผนที่ของแอปเปิ้ลเอง แถมยังไม่มีแอพให้โหลดซะด้วยสิ


ถึงแม้ว่าแผนที่ใหม่ของแอปเปิ้ลจะสวยงามด้วยระบบสามมิติ ทำงานได้เร็วกว่า แถมยังมีระบบนำทางแบบ turn-by-turn ที่ Google Maps ยังไม่เคยใส่มาบน iOS แต่แผนที่ใหม่นี้ก็ยังมีจุดอ่อนหลายๆอย่างเช่น ข้อแรก POI (สถานที่ที่น่าสนใจ) ยังน้อยกว่า Google Maps มาก นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะหาบางสถานที่ไม่เจอเพราะยังไม่มีข้อมูลในระบบ ข้อสองก็คือแผนที่ใหม่นี้ไม่มีข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะ อย่างรถเมล์ ทำให้คนที่ใช้ค้นหารถสายที่ต้องการลำบากขึ้น ทางกูเกิลเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย เพราะพวกเค้าก็กำลังเร่งพัฒนาแอพ Google Maps บนไอโฟนอยู่ เพียงแต่ยังไม่เสร็จเท่านั้นซึ่งตอนนี้ก็ทำได้แค่รอเท่านั้น แต่ถ้าใครไม่อยากรอ ซีก็มีวิธีแก้ขัดชั่วคราวมากระซิบบอกค่ะ


ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีแอพออกมาให้โหลดกัน แต่คุณก็ยังสามารถใช้งานได้ผ่าน HTML 5 บน Web app ถ้าคุณลง iOS 6 บนไอโฟนเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เปิด Safari ขึ้นมา แล้วเข้าไปที่ maps.google.com ต่อจากนั้นก็คลิกปุ่ม export ที่อยู่ตรงกลางของ menu bar เพื่อเป็นการเซฟแอพลงไปบนหน้า homescreen เมื่อมันทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะเห็นไอคอน “Google Maps” โผล่อยู่บนหน้า homescreen แน่นอนว่า Google Maps ตัวนี้จะทำงานด้วย HTML 5 บน Safari จึงทำให้ทำงานไม่เร็วเท่าหรือสวยงามเท่าใน iOS 5 แต่ฟีเจอร์ต่างๆก็ยังอยู่ครบ ทั้งการหาเส้นทางระบบขนส่งมวลชน เส้นทางเดินเท้า ระบบนำทาง GPS การแชร์พิกัดต่างๆ


ถ้าใครอยากใช้ Google Maps บน iOS 6 ก็ต้องใช้แบบนี้แก้ขัดไปก่อนนะ รอจนกว่ากูเกิลจะทำแอพอย่างเป็นทางการเสร็จเรียบร้อยก่อน


ที่มา http://www.dailygizmo.tv/


 

หัวแปลง Lightning ใช้กับอุปกรณ์เสริมบางตัวไม่ได้

เมื่อคืนหลายคนคงได้เห็น Lightning พอร์ตตัวใหม่ที่ใช้กับไอโฟน 5 และไอพอดทัช/ไอพอดนาโนรุ่นใหม่กันไปแล้ว


สำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์เสริมรุ่นเก่าๆที่ยังเป็นหัวแบบเดิมอยู่ แอปเปิลก็ได้ออกหัวแปลงเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ แต่ปัญหาก็คือหัวแปลงนี้อาจจะไม่รองรับการทำงานกับอุปกรณ์เสริมบางตัว


อุปกรณ์ที่ว่านั้นก็มี Speaker docks, อุปกรณ์เชื่อมต่อในรถยนต์บางชิ้นและสายเคเบิลต่างๆของแอปเปิลที่มีวางขายอยู่ในตอนนี้


สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าพอร์ตตัวใหม่ไม่มี output สำหรับสัญญาณอนาล็อก จึงเป็นผลให้อุปกรณ์เสริมที่ใช้สัญญาณอนาล็อกส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้


ในหน้าเว็บของแอปเปิ้ลได้แสดงข้อความบอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่าหัวแปลง Lightning เป็น 30-Pin “ไม่สนับสนุนวิดีโอและไอพอด”และ “อุปกรณ์เสริม 30-pin บางตัวก็ไม่สนับสนุนการทำงานเช่นกัน” แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนก็คือ video output แบบไหนบ้างที่ทำงานหรือไม่ทำงานผ่านหัวแปลงตัวนี้


ปัญหานี้อาจจะทำให้คนที่ชอบต่อไอโฟนและไอพอดกับทีวีหรือจอมอนิเตอร์ผ่าน USB ต้องคิดหนักหากอยากจะซื้ออุปกรณ์ที่มีพอร์ต Lightning เพราะอาจจะต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมบางตัวใหม่


หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่เว็บ 148apps บอกไว้ก็คือ ต้องรอให้ผู้ผลิตรายอื่นผลิตหัวแปลง Lightning เป็น 30-Pin แบบที่มี DAC มาให้ในตัวซึ่งมันจะแปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นอนาล็อกได้ แต่ยังไม่แน่ว่าของแอปเปิลจะทำออกมาขายด้วยหรือไม่

ที่มา http://www.dailygizmo.tv/


 

Monday, September 10, 2012

Amazon เปิดตัว Kindle Fire 7 HD!! พร้อมเปิดตัว Tablet อีก 1 ขนาด 8.9 นิ้ว

Amazon เปิดตัว Kindle Fire 7 HD!! พร้อมเปิดตัว Tablet อีก 1 ขนาด 8.9 นิ้ว

หลังจากครบรอบ 1 ปีกับการเปิดตัว Kindle Fire ตัวแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตอนนีเ Amazon ก็ได้เปิดตัวภาคต่อของ Series ยาวของ Tablet ตระกูลนี้กันต่อไปแล้วครับกับ Kindle Fire 7 HD แถมยังบอกอีกว่าจะมี Kindle Fire 8.9 HD อีกตัวหนึ่งวางขายด้วย

Kindle Fire ในปีที่ผ่านมา กลายเป็นสินค้าที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในเว็บ Amazon (แต่น่าเสียดายไปนิดที่ยังไม่มีขายในไทย) ในปีนี้ Amazon จึงสานต่อด้วยการเปิดตัว Kindle Fire HD ตัวใหม่ ที่อัพ Specs ขึ้นมาอีกให้ภาพคมชัดขึ้น เร็วขึ้น แถมยังเตรียมทำเครื่องรุ่นที่รองรับ 4G ออกมาด้วย

Amazon เปิดตัว Kindle Fire 7 HD!! พร้อมเปิดตัว Tablet อีก 1 ขนาด 8.9 นิ้ว

สำหรับ Specs คร่าวๆ ของ Kindle Fire HD 7 นิ้วก็มี

หน้าจอความละเอียด 1280?800หน้าจอขนาด 7 นิ้ว1.2 GHz dual-core OMAP 4460 processorแบตเตอรี่อยู่ได้นาน 11 ชั่วโมง Dual stereo speakers พร้อม Dolby Digital Plus audioกล้องด้านหน้าความละเอียดระดับ HDมี 2 ขนาดความจุ 16 GB และ 32 GB

และอีกรุ่น Kindle Fire HD 8.9 นิ้ว Specs นั้นจะคล้ายกับรุ่น 7 นิ้ว แต่มีขนาดความละเอียดของจอที่มากกว่าครับ

หน้าจอความละเอียด 1920?1200หน้าจอขนาด  8.9 นิ้ว ส่วนเรื่องราคานั้น ราคาจะเริ่มต้นที่รุ่น 16 GB Wi-Fi ม่ีราคาต่ำสุดที่ $299 หรือ 9,000 บาท ส่วนรุ่นสูงสุด 32GB Wi-Fi + 4G จะมีราคาอยู่ที่ $499 หรือ 15,000 บาทครับส่วน Kindle Fire เก่า ทาง Amazon ก็จะยังขายอยู่เหมือนเดิม แต่จะทำการ Upgrade Specs ใหม่ให้เครื่องเร็วขึ้น Memory เพิ่มขึ้น 2 เท่า และ Battery ที่ใช้งานได้นานขึ้น แถมยังปรับราคาลงมาเหลือ $149 หรือ 4,500 บาท เรียกว่าปรับราคาลงมาสู้กับ Google Nexus 7 เลยทีเดียววิธีการสั่งซื้อเครื่องของ Amazon ปกติแล้ว เราจะสามารถสั่ง Online ทางเว็บของ Amazon ให้เค้าส่งของมาลงที่บ้านเราได้เลยครับ แต่น่าเสียดายที่ไทยเรายังไม่มีบริการของ Amazon ใครอยากได้มาใช้ซักเครื่องคงต้องฝากเพื่อนที่อเมริกาซื้อให้แทนแล้วล่ะ

via:- Mobiledista-

หลุดทั้งภาพและสเป็คของ ‘HTC 8X’ Windows Phone 8 ติด Beats Audio ตัวใหม่จาก HTC

สมาชิกของเว็บบอร์ด xda-developers อันลือลั่นในวงการมือถือ และใช้ชื่อว่า Football ได้ทำการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวมือถือ Windows Phone 8 จาก HTC ที่มีชื่อเรียกว่า 8X ซึ่งสเป็คของเจ้ามือถือรุ่นนี้นั้นประกอบด้วยหน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว, มีซีพียู dual-core 1.2GHz, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าแบบมุมกว้างมาก (untra-wide angle) สามารถบันทึกวีดีโอได้ 1080p HD, มีมาครบทั้ง NFC และ Beats Audio


หลุดทั้งภาพและสเป็คของ HTC 8X Windows Phone 8 ติด Beats Audio ตัวใหม่จาก HTC


คาดว่า HTC จะเปิดตัว 8X ในวันที่ 19 กันยายนนี้


 


via:- Mobiledista-

เอชทีซีเตรียมส่ง Flyer 2 แท็บเล็ตราคาเบาๆ ใช้ซีพียู Snapdragon S4 บางแค่ 7.1 มม.

มีข่าวออกมาว่าเอชทีซีเตรียมเปิดตัวแท็บเล็ตตัวที่ 2 ต่อจาก HTC Flyer คาดว่าจะใช้ชื่อ Flyer 2 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว และปากกาเขียนหน้าจอ Magic Pen เหมือนเดิม


มีการคาดการณ์ว่า Flyer 2 น่าจะเปิดตัวในงานวันที่ 19 กันยายนนี้ ส่วนสปคที่หลุดออกมาก็หน้าสนใจเลยทีเดียว น่าสนใจในที่นี้ก็คือสเปคประมาณนี้น่าจะทำให้ราคาของแท็บเล็ตรุ่นนี้ไม่สูงเหมือนรุ่นแรกนั่นเอง ตามข่าวบอกว่าอาจจะราคาใกล้เคียงกับ Nexus 7 และ Kindle Fire 7 HD


แต่ก็คงมีหลายๆ คนที่อยากได้แท็บเล็ตแรงๆ ถึงจะแพงก็ยอมซื้อ ต้องติดตามกันต่อไปครับ อาจจะได้เห้นแท็บเล็ตราคาถูกอีกรุ่นก็เป้นได้

จอ 7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 768 พิกเซลปากกาเขียนหน้าจอ Magic Penตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียม ที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบเดียวกับ HTC One Sรัน Android 4.1 Jelly Beanอินเตอร์เฟส HTC Sense เวอร์ชั่น Tabletซีพียู Snapdragon S4บางแค่ 7.1 มม.กล้องหลัง 3 ล้านกล้องหน้า 1 ล้าน

เอชทีซีเตรียมส่ง Flyer 2 แท็บเล็ตราคาเบาๆ ใช้ซีพียู Snapdragon S4 บางแค่ 7.1 มม.


 


via:- Mobiledista-krapalmBlog

รวมฮิตมือถือฮ็อตรุ่นใหม่ที่จะมาในงาน TME 2012 Showcase

 


                      กลับมาอีกแล้วกับงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตครั้งใหญ่ส่งท้ายปลายปี Thailand Mobile Expo 2012 showcase ซึ่งในครั้งนี้คาดว่าจะมาแรงกว่าทุกปี เพราะมีสมาร์ทโฟนเปิดตัวออกมาให้เลือกกันมากมาย ซึ่งเราก็รวบรวมเอาสมาร์ทโฟนรุ่นเด็ดที่จะมาจำหน่าย หรืออย่างน้อยๆ ก็มาเปิดตัวให้จองก่อนใคร จะมีรุ่นไหนบ้างนั้น มาดูกันได้เลย


Samsung Galaxy Note II


รวมฮิตมือถือฮ็อตรุ่นใหม่ที่จะมาในงาน TME 2012 Showcase


เป็นอีกรุ่นที่ถือว่า Samsung ได้พัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกขึ้น พร้อมปรับสเป็คให้แรงขึ้นกว่าเดิม ตอบสนองการสั่งงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Quad-core ความเร็ว 1.6 GHz พร้อมชิพประมวลผล 3D Mali-400MP ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 Jellybean หน่วยความจำภายใน 16 GB และ RAM 2 GB ที่เด่นไปกว่านั้นคือปากกา S Pen ที่รับรู้แรงกดได้ถึง 1024 ระดับ มากกว่ารุ่นเดิม 4 เท่า กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล สั่งงานบนหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว แว่วข่าวว่าวางจำหน่ายเดือน ต.ค. หากมาไม่ทันในงานต้องมีจองพร้อมโปรโมชั่นเด็ดแน่ๆ


Samsung Galaxy Note 10.1


วางจำหน่ายไปแล้วสักพัก แต่ใครที่ยังไม่ได้ลองแนะนำให้มาทดสอบใช้งานด้วยตัวเอง ซึ่งการใช้ปากกา S Pen ให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนปากกาสไตลัสสมัยก่อน เพราะเทคโนโลยีก้าวไปไกลมาก จดบันทึก วาดรูป เขียนโจทย์ค้นหาคำตอบคณิตศาสตร์ได้ทันที รองรับการทำงานแบบ Multi-screen บนหน้าจอ 10.1 นิ้ว เปิดใช้งานได้หลายหน้าจอจากพลังหน่วยประมวลผลแบบ Quad-core ความเร็ว 1.4 GHz พร้อมเป็นเจ้าของในราคา 21,900 บาท ในงานน่าจะมีโปรโมชั่นเด็ดรออยู่


Samsung Galaxy S Duos


มือถือแอนดรอยด์ 2 ซิมรุ่นล่าสุดจาก Samsung มาพร้อมซีพียูความเร็ว 1 GHz พร้อมการ์ดจอ Adreno 200 มีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ด้านการใช้งาน 2 ซิมการ์ดนั้น Galaxy S Duos สนับสนุนการเชื่อมต่อ 3G ทั้ง 2 ซิมการ์ด แต่ก็จะต้องเลือกใช้งานดาต้าแค่ซิมเดียว ตัวเครื่อง Galaxy S Duos มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS และมี TouchWiz Nature UX แบบเดียวกันกับ Galaxy S3 ซึ่ง Galaxy S Duos นี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นใหม่ที่มีเปอร์เซ็นต์ว่าจะมาขายทันงาน Thailand Mobile Expo 2012 Showcase


Samsung Galaxy Y Duos Lite (Galaxy Pocket Duos)


มือถือ 2 ซิมอีกรุ่นใหม่ แต่เป็นรุ่นระดับล่าง มีชื่อเรียกด้วยกัน 2 ชื่อคือ Galaxy Y Duos Lite และ Galaxy Pocket Duos (ไม่ทราบเหมือนกันว่า Samsung ประเทศไทยจะเลือกชื่อไหนใช้ทำตลาดในประเทศ) ด้านสเป็คก็ไม่ขี้เหร่มาพร้อมซีพียูความเร็ว 832 MHz, กล้อง 2 ล้านพิกเซล มีความจุภายใน 3 GB และสนับสนุนการเชื่อมต่อผ่าน 3G ในซิมการ์ดหลัก ด้านระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android 2.3 Gingerbread


Samsung Galaxy S III


คาดว่างานคราวนี้ Samsung Galaxy S III จัดเต็มโปรโมชั่นแน่นอน เพราะคู่แข่งปรับลดราคาลงไปแล้ว ใครที่เล็งรุ่นนี้อยู่รอดูโปรได้เลย ร้อนแรงแน่นอน มาครั้งนี้มีสีแดง Garnet Red ออกมาด้วย สำหรับสเป็คเครื่องก็ไม่ต้องบอกอะไรมากมาย จุดเด่นอยู่ที่ซีพียู Quad-core 1.4 GHz หน้าจอ 4.8 นิ้วแบบ Super AMOLED HD แอนดรอยด์ 4.0.4 เตรียมพร้อมกินขนม Jellybean 4.1 เร็วๆ นี้


Nokia Lumia 920


พึ่งจะเปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กับ Windows Phone รุ่นล่าสุดที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 กับหน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีการแสดงผล PureMotion HD คราวนี้รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบมาให้เลย นอกจากนี้ยังมีกล้องดิจิตอล 8.7 ล้านพิกเซล เลนส์ Carl Zeiss ใช้เทคโนโลยี PureView อีกด้วย ส่วนจะมาทันงานหรือไม่นั้น ต้องรอชม อย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีเครื่องจริงให้ได้สัมผัสกันบ้าง


Nokia Lumia 820


เป็นรุ่นอัพเกรดจาก Nokia Lumia 800 จอแสดงผลมีขนาดใหญ่กว่าที่ 4.3 นิ้วแบบ AMOLED ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 หน่วยประมวลผลความเร็ว 1.5 GHz แบบ Dual-core หน่วยความจำภายใน 8 GB เพิ่ม microSD ได้ 32 GB ส่วนกล้องดิจิตอลก็มีมาให้ที่ 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Carl Zeiss รูรับแสงกว้าง F2.2 พร้อมถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 1080p น่าจะมีมาให้ลองเล่นภายในงาน


HTC One X+


อัพเกรดจาก One X ที่ใช้หน่วยประมวลผล Quad-core 1.5 GHz ออกมาเป็น One X+ (วันเอ็กซ์ พลัส) ที่เร็วกว่าคือ NVidia Tegra3 Quad-core 1.7 GHz มาพร้อมกับแอนดรอยด์ 4.1.1 Jellybean จากโรงงาน คาดว่ารุ่นนี้ทำออกมาต่อกรกับค่ายกิมจิแน่นอน ส่วนจะออกมาทันงานหรือไม่นั้น ต้องรอติดตามข่าว


HTC Desire X


รุ่นกลางของค่ายนี้ กับ HTC Desire X ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 คาดว่าน่าจะมีให้อัพเกรดเป็น 4.1 Jellybean ในอนาคต สำหรับรุ่นนี้ก็มีหน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core ชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 203 สั่งงานบนหน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว กล้อง 5 ล้าน หน่วยความจำภายใน 4 GB คาดว่าเปิดในระดับหมื่นบาทใน อาจจะทันขายในงาน ยังไงต้องติดตามชม


LG Optimus Vu


เห็นในอินเตอร์เน็ตมาก็นานแล้ว ได้ข่าวว่ากำลังจะเข้าทำตลาดในไทย ด้วยดีไซน์สี่เหลี่ยมสไตล์ L แต่รุ่นนี้มาในระดับพรีเมี่ยม หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 5 นิ้ว มีปากกาเขียนบนหน้าจอ พร้อมฟังก์ชั่น Quickmemo สำหรับจดบันทึก ประมวลผลด้วยซีพียูแบบ Quad-core ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice cream sandwich ใครที่กำลังเล็งรุ่นนี้อยู่คงต้องรอลุ้นว่าจะมาทันงานหรือไม่


LG Optimus L9


จากเดิมมีเพียง L3, L5, L7 มาถึงรุ่นล่าสุด L9 ซึ่งเป็นเลขคี่ทั้งหมด แน่นอนว่าต้องดีไซน์เหลี่ยมเหมือนตัวอักษร L โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ล่าสุด หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 4.7 นิ้ว หน่วยความจำภายใน 4 GB เพิ่มได้ด้วย microSD กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สวยงาม และราคาก็ไม่น่าจะไม่แพงจนเกินไป คงต้องรอลุ้นให้มาทันในงานเช่นกัน


LG Optimus L5 Dual


สมาร์ทโฟนอินเตอร์แบรนด์ที่ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดเริ่มจะตีตลาดมากขึ้น มาถึงคราวนี้ใช้ดีไซน์ของ Optimus L5 มาเปิดตัวในแบบ Dual SIM ที่ต่างกับ L5 นิดหน่อยตรงปุ่มกดที่มีปุ่มสลับการใช้งานซิมการ์ดเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก สำหรับรุ่นนี้มีจอภาพขนาด 4 นิ้ว หน่วยประมวลผลความเร็ว 800 MHz หากมีซิมการ์ดที่ใช้โปรโมชั่นโทรถูก อีกหมายเลขใช้เปิดเล่นเน็ต รุ่นนี้ก็น่าสนทีเดียว คาดว่าจะมีจำหน่ายในงานเลย ต้องรอติดตาม


LG Optimus G


พึ่งเปิดตัวกันไปหมาดๆ กับสมาร์ทโฟนสุดแรงจาก LG เพราะมาพร้อมกับจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว เทคโนโลยีใหม่มีขอบจอที่บางมาก มีความละเอียด 1280 x 768 พิกเซล ใช้ซีพียูตัวใหม่ Quad-core Snapdragon S4 Pro ความเร็ว 1.5 GHz มีจีพียู Adreno 320 ให้แรมมาเต็มๆถึง 2 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 32 GB นอกจากนี้ยังให้กล้องหลังมาถึง 13 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 2,100 mAh รัน Android 4.0 ICS ต้องรอลุ้นกันว่า LG จะนำ Optimus G มาเปิดให้จองกันในงาน Thailand Mobile Expo กันหรือเปล่า


Motorola RAZR M


เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 รุ่น เริ่มจาก RAZR M ตัวเครื่องบางเพียง 8.3 มม. หน้าจอ Super AMOLED Advance ขนาด 4.3 นิ้ว ซีพียู Dual-core 1.5 GHz พร้อมด้วยชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 225 ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 หน่วยความจำภายใน 8 GB กล้อง 8 ล้าน พร้อมกล้องหน้า 1 ล้านพิกเซล น่าจะเป็นรุ่นถูกสุดในตระกูลนี้


Motorola RAZR HD


ขยับขึ้นมาอีกหน่อยกับรุ่นนี้ กับความบางเฉียบ 8.4 มม. จอแสดงผลใหญ่ขึ้นที่ 4.7 นิ้ว หน่วยประมวลผลความเร็ว 1.5 GHz พร้อมด้วยชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 225 ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล หน่วยความจำภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB คาดว่าน่าจะมาแทน RAZR รุ่นแรก


Motorola RAZR MAXX HD


ถ้าหากกลัวว่าแบตเตอรี่จะไม่พอก็จัด RAZR MAXX HD ได้เลย เพราะมีแบตความจุสูงมาให้ถึง 3,300 mAh แต่ยังคงความแรงไว้ที่ 1.5 GHz แบบ Dual-core สเป็คโดยรวมแล้วจะเหมือนกับ RAZR HD แต่แบตเตอรี่มีความจุสูงกว่า และยังหนาขึ้นมาอีกหน่อยที่ 9.3 มม. ทั้งสามรุ่นที่ว่ามาน่าจะมีเครื่องให้ทดลองเล่นในงาน


i-mobile i-STYLE Q1


ถ้าลองดูดีๆ จะไปคล้ายกับแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากรุ่นนี้ถือว่าสเป็คแรงพอตัว ด้วยหน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz มีชิพ 3D ในตัว หน่วยความจำภายใน 4 GB รองรับ microSD เพิ่ม จอแสดงผลขนาดใหญ่ 4 นิ้ว ใช้งาน 3G ความถี่ 850/2100 MHz คือใช้ได้กับ dtac, True move, i-mobile 3GX, TOT ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดด้วย


i-mobile i-STYLE Q2


สเป็คโดยรวมคล้ายกับ Q1 คือซีพียูความเร็ว 1 GHz พร้อมชิพ 3D ในตัว ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด แต่รุ่นนี้รองรับ 3G ทุกเครือข่าย มีจอภาพขนาดใหญ่กว่าคือ 4.3 นิ้ว มีหน่วยความจำภายใน 4 GB ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 แต่สเป็คกล้องถูกลดลงมาเหลือ 5 ล้านพิกเซล ก็น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบสมาร์ทโฟนจอใหญ่ๆ ในราคาประหยัด


i-mobile i-STYLE Q3


เป็นรุ่นแรกของค่ายนี้ที่ใช้ซีพียูแบบ Dual-core ซึ่งมีความเร็ว 1 GHz ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 มีหน่วยความจำภายใน 4 GB สามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB จอภาพขนาด 4 นิ้ว ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ดเช่นกัน ต้องรอลุ้นว่ารุ่นนี้จะมาทันเปิดตัวในงานหรือไม่


Sony Xperia TX


รุ่นเรือธงของ Sony ในปีนี้ มาพร้อมกับสเป็คแบบจัดเต็มที่สุดของ Sony แล้ว มีหน้าจอขนาด 4.55 นิ้ว HD Reality Display พร้อม Mobile BRAVIA Engine และกล้อง 13 ล้านพิกเซล Exmor R พร้อมความสามารถถ่ายภาพได้รวดเร็ว 1 วินาที มีความจุ 16 GB ใช้ซีพียู Dual-core รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm ความเร็ว 1.5 GHz นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงแบบ 3D ให้แบตเตอรี่มา 1,850 mAh ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นใช้ Android 4.0 ICS ที่สามารถอัพเกรดเป็น Android 4.1 Jellybean ได้ในเร็วๆนี้ ถ้าไม่ผิดพลาดอะไรก็เตรียมพบกับ Xperia TX ได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2012 Showcase ต้นเดือนตุลาคมนี้


Sony Xperia V


หนึ่งใน 3 รุ่นล่าสุดของ Sony เปิดตัวมาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นเหนือพี่ใหญ่ซึ่งก็คือสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้นั่นเอง ตัวหน้าจอนั้นมีขนาด 4.3 นิ้ว มาพร้อมจอแบบ Reality Display พร้อม Mobile BRAVIA Engine 2 นอกจากนี้ยังให้กล้องจัดเต็มมาถึง 13 ล้านพิกเซล และเป็นเซนเซอร์แบบ Exmor R สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็วแค่ 1 วินาที , มีซีพียู Dual-core 1.5 GHz รัน Android 4.0 ICS และให้แบตเตอรี่มาที่ 1,750 mAh ต้องมารอดูกันว่า Sony ประเทศไทยจะนำรุ่นนี้มาขายทันงานหรือไม่


Sony Xperia J


น้องเล็กคนสุดท้องที่ Sony พึ่งเปิดตัวล่าสุดที่งาน IFA 2012 มาพร้อมหน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล ให้ซีพียูมาที่ความเร็ว 1 GHz รัน Android 4.0 ICS มาตั้งแต่ต้นซึ่ง Sony บอกว่าสามารถอัพเกรดเป็น Android 4.1 Jelly Bean ได้ ติดกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีหน่วยความจำภายใน 4 GB และแบตเตอรี่ 1,750 mAh และถ้าไม่ติดขัดอะไรก็อาจจะได้เห็น Xperia J รุ่นใหม่รุ่นนี้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2012 Showcase


Sony Xperia ion


รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกันกับ Xperia S และเป็นตัวเริ่มศักราชใหม่ของ Sony ในปีนี้หลังจากตัด Ericsson ทิ้งไปจากชื่อแบรนด์ ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ 4.6 นิ้ว พร้อมระบบ Mobile BRAVIA Engine มีซีพียู Dual-core ความเร็ว 1.5 GHz ความจุ 16 GB กล้องด้านหลังความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์แบบ Exmor R และเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ Sony ประเทศไทยนำมาขายช้าไปสักนิด เพราะตัวระบบปฏิบัติการยังคงเป็น Android 2.3 Gingerbread อยู่เลย แต่ด้านวัสดุนั้นถือว่าดีมากเลยทีเดียว


Sony Xperia SL


สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จาก Sony เป็นรุ่นที่อัพเกรดมาจาก Xperia S ที่ออกมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งก็มีการอัพเกรดซีพียูให้แรงกว่าเดิมกลายเป็น Dual-core ความเร็ว 1.7 GHz และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS มาตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ยังมีสีให้เลือกเพิ่มขึ้นมากว่าเดิมคือ มีสีชมพูและสีน้ำเงินเพิ่มเข้ามา นอกจากนี้สเป็คอื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจาก Xperia S แต่ก็ถือว่าสเป็คนั้นยังคงความทันสมัยอยู่ทั้งหน้าจอ IPS 4.3 นิ้ว คมชัดระดับ 720p และมีกล้องความละเอียด 12.1 ล้านพิกเซล


Sony Xperia acro S


สมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นของ Sony ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับมาตรฐาน IP57 และ IP55 มาพร้อมกับหน้าจอ Reality Display พร้อมระบบ Mobile BRAVIA Engine ขนาด 4.3 นิ้ว มีความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ใช้ซีพียู Dual-core 1.5 GHz, แรม 1 GB ให้ความจุมาที่ 16 GB มีกล้องถ่ายรูป 12 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช สามารถบันทึกวีดีโอได้ 1080p และรัน Android 4.0 ICS และก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ Sony ประเทศไทยวางขายไปสักพักหนึ่งแล้ว


Sony Xperia Go


สมาร์ทโฟนกันน้ำกันฝุ่นอีกหนึ่งรุ่นจาก Sony ที่กันน้ำได้เหนือกว่า Xperia acro S เสียอีก เพราะสามารถกันน้ำเข้าได้ถึงระดับมาตรฐาน IP67 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดเท่าที่มือถือเครื่องหนึ่งจะรองรับได้ ด้านสเป็คมาพร้อมจอขนาด 3.5 นิ้ว มีความละเอียด 854?480 พิกเซล เป็นจอแบบ Reality Display พร้อม Mobile BRAVIA Engine ใช้ซีพียู Dual-core ความเร็ว 1 GHz NovaThor พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพได้รวดเร็ว fast capture


Sony Xperia miro


สมาร์ทโฟนระดับล่างอีกหนึ่งรุ่นของ Sony มาพร้อมกับซีพียูความเร็ว 800 MHz มีหน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้วความละเอียด 480 x 320 พิกเซล ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS พร้อมกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล ให้พื้นที่ความจุ 4 GB เพิ่ม microSD ได้ และใส่แรมมาให้ 512 MB โดย Sony ได้วางตัว Xperia miro ไว้เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นด้าน Social Network เพราะมีการรวม Facebook เข้าไปไว้กับแอพต่างๆของเครื่อง พร้อมไฟแจ้งเตือนสถานะแบบใหม่ที่เรียกว่า unique illumination


Sony Xperia tipo


สมาร์ทโฟนรุ่นล่างอีกหนึ่งรุ่นของ Sony มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามในแบบ NXT มีซีพียูความเร็ว 800 MHz หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 480 x 320 พิกเซล ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS มีกล้องด้านหลัง 3.2 ล้านพิกเซล พร้อมพื้นที่ความจุ 2.9 GB ให้แรมมา 412 MB ตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ 1,500 mAh มีทั้งหมด 4 สีด้วยกันคือ สีขาว สีดำ สีน้ำเงิน และสีแดง


Sony Xperia tipo dual


สมาร์ทโฟนคู่แฝดของ Xperia tipo ด้านสเป็คนั้นไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่เหมือนกันเป๊ะ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู 800 MHz หน้าจอความละเอียด 480 x 320 พิกเซล ขนาด 3.2 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS แบตเตอรี่ 1,500 mAh แต่ข้อแตกต่างเพียงข้อเดียวก็คือเรื่องการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด


BlackBerry Curve 9320


ดูแผ่วๆ สำหรับค่ายนี้ แต่ก็มีโทรศัพท์มือถือออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดก็คือ BlackBerry Curve 9320 เปิดตัวในราคาประหยัดเพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ การสั่งงานของรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นแบบคลาสสิคคือใช้ออฟติคอลแทร็คแพด แตะแล้วลากนิ้วไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หน้าจอขนาด 2.44 นิ้ว มีแผงปุ่มกดแบบคีย์บอร์ดเพื่อให้พิมพ์ข้อความ หรือแชทได้ง่ายๆ สำหรับรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7.1 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซลไว้ถ่ายภาพ อัพเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์แบบขำๆ รองรับเพียง GPRS/EDGE และ 3G หากต้องการบีบีไว้แชท พิมพ์ข้อความได้เร็วๆ ในราคาประหยัดก็จัดรุ่นนี้ได้เลย


ทุกรุ่นที่มาแนะนำในคอลัมน์นี้เป็นรุ่นใหม่ที่เราคาดการณ์ว่าจะเปิดตัว หรือวางจำหน่ายในงาน Thailand Mobile Expo Show case 2012 ครั้งนี้ ซึ่งบางรุ่นก็อาจจะเปิดจองรอรับเครื่องก่อนใคร สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่อยู่แล้วแนะนำให้คลิกเข้าไปดูโปรโมชั่นเด็ดที่เวบไซต์ www.thailandmobileexpo.com โดยงานจะจัดวันที่ 4-7 ตุลาคม 2555 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แล้วพบกันในงานครับ


 


via:- Mobiledista-